วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561

Review Series : Thirty But Seventeen นางเอกโคม่าตื่นขึ้นมาตอนอายุ 30 แล้วได้พบกับรักแรกอีกครั้ง



เรื่อง : Review Series : Thirty But Seventeen

ความยาว : 32 ตอน

เรื่องย่อ 
ซออูรี และ กงอูจิน ทั้งสองคนได้เจอกันตอนอายุ 17 แต่เพราะเกิดเกิดอุบัติเหตุทำให้ซออูรีนอนโคม่าอยู่หลายปี ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองอายุ 30 แล้ว เธอได้เจอกับกงอูจิน โดยที่กงอูจินไม่รู้เลยว่าซออูรีคือสาวที่ตัวเองตัวหลุมรัก เพราะเข้าใจผิดว่าซออูรีตายไปในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เขาเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง

เรื่องนี้ปมดราม่าไม่ได้เยอะแยะมากมายอย่างที่คิด แถมยังแอบเอาใจลุ้นช่วยพระเองนางเอกให้ได้รู้ความจริงกันอยู่หลายตอน หวยไปออกเอาตอนเกือบท้ายเรื่อง กว่าจะรู้ว่าใครเป็นใคร พอบทจะเฉลยเรื่องราวทุกอย่างก็คลี่คลายได้อย่างง่ายดายเสียเหลือเกิน ที่ปูมาทั้งเรื่องคาดกันไปคาดกันมาตั้งนานนั่นคืออะไร ซีรี่ย์เรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นความน่ารักของนางเอกที่ร่างกายเป็นสาวอายุ 30 แต่ความคิดยังเป็นเด็กไร้เดียงสาอายุ 17 ที่ต้องทำใจยอมรับหลังตัวเองฟื้นจากอาการโคม่ากลายมาเป็นผู้ใหญ่ และพระเอกที่รู้สึกเจ็บปวดและปิดกั้นหัวใจตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้นางเอกตาย แต่เมื่อได้เจอกันอีกครั้ง ทั้งคู่ต่างช่วยกันก้าวผ่านความเจ็บปวด และตกหลุมรักกัน โดยมีเจนนิเฟอร์ น้องชัน และเพื่อนของน้องชันอีกสองคน ที่ทำให้เรื่องนี้น่ารักและอบอุ่นมากๆ ทุกคนเป็นส่วนนึงของกันและกัน เปรียบเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน  เป็นเรื่องที่เราต้องคอยเอาใจช่วย ไม่ได้ดราม่ามากมายอะไร และตัวละครทุกคนก็น่ารักสดใสมากๆ แนะนำให้ดู อีกเรื่องนึงเลยค่ะ

คะแนน 7.5/10

ดูแล้ว!!! ไบค์แมน ศักรินทร์ ตูดหมึก ส่วนตัวคาดหวังไว้เยอะกว่านี้




เรื่อง : ไบค์แมน ศักรินทร์ ตูดหมึก

เรื่องย่อ : ศักรินทร์ โกหกที่บ้านว่าเป็นหนุ่มแบงค์ ที่กำลังจะได้เลื่อนตำแหน่ง แต่ความจริงไปทำงานเป็นวินมอไซต์ เพราะกลัวที่บ้านจะผิดหวัง จึงต้องคอยปกปิดไม่ให้ที่บ้านรู้ความจริง โดยมีเพื่อนๆ ชาววินคอยช่วยเหลือ และได้เจอกับเพื่อนเก่าอย่าง จ๋าย ที่เข้ามาทำให้ศักรินทร์หัวใจพองโต

คะแนน : 6/10

โดยรวมแล้วหนังเล่าเรื่องแบบง่ายๆ แบบเบาสมองไม่ต้องคิดเยอะ ส่วนตัวแอบคิดว่าจะต้องเข้าไปนั่งขำจนตัวโยก แต่เอาเข้าจริงก็หลุดขำออกมาแค่ฉากใหญ่ๆ 2-3 ฉาก ที่เหลือก็แค่รู้สึกว่ามีความเพลินๆ แต่ไม่ถึงกับขำออกเสียงอะไร ในโรงที่ไปดูก็ดูเงียบๆ ไม่ได้คึกคัดกันอย่างที่คิด เราชอบน้าค่อมสุดในเรื่องเพราะแค่เห็นหน้าตาท่าทางแกก็รู้สึกว่าจะขำให้ได้ แต่หนังก็ไม่ได้พยายามจะยัดเยียดมุกให้ต้องขำอะไรเกินเหตุเกินผล แต่ก็ไม่ได้หวือหวาอะไร ไม่มีความทะลึ่งหรือมุกหยาบคาย ซึ่งเราโอเคในตรงนี้มาก ตัวละครก็ไม่ได้พยายามจะตลกหรือเล่นใหญ่แต่ดูเป็นธรรมชาติไปแบบเรียบง่าย และเดาทางได้หมด เราชอบฉากที่ดึงเข้าดราม่าของ เจนนิเฟอร์ คิ้ม กับ พีช ตอนใกล้จบ ช่วงที่ย่าเข้าโรงพยาบาล รู้สึกว่า เออ มันไม่ใช่หนังที่พยายามจะขายตลกนะ มันยังมีแง่คิดดีๆ ของตัวละครให้เห็นด้วย ถ้าไปดูแบบไม่เครียดก็ถือว่าโอเค แต่สำหรับเรื่องนี้ เรายังรู้สึกเฉยๆ เป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้น่าลุ้นหรือน่าติดตามมาก

ใครดูมาแล้วบ้าง รู้สึกยังไงกัน



วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561

Review : Kid On The Slope เพื่อนกันถ้าเป็นแล้วก็เป็นจนวันตาย (Spoil)


เรื่อง : Kid On The Slope

เรื่องย่อ :
นิชิดะที่เพิ่งย้ายมาเป็นนักเรียกใหม่ ได้พบกับ ริโกะ กับ เซ็นทาโร่
เรื่องราวแห่งมิตรภาพ ความรัก และดนตรีแจ๊ส 
ได้เชื่อมโยงพวกเขาทั้งสามคนเอาไว้ด้วยกัน

คะแนน : 8/10

เปิดเรื่องมานี่ได้กลิ่นไอของความวายคละคลุ้งไปทั่ว ตอนแรกแอบเอ๊ะใจว่า เอ๋...หรือจะเป็นหนังวายไหมนะ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ลงเอยแบบนั้น เรื่องราวที่เล่าถึงตัวละคร นิชิดะ เด็กเนิร์ดที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ได้พบกับ เซ็นทาโร่ เด็กหนุ่มเจ้าของผมส้มที่มีประวัติเรื่องชกต่อย และ ริโกะ สาวสวยน่ารักแสนหวาน ที่บ้านทำธุระกิจแผ่นเสียง โดยมีห้องใต้ดินร้านเป็นห้องซ้อมดนตรี เซ็นทาโร่ผู้หลงใหลในดนตรีแจ๊ส รักในการตีกลองยิ่งกว่าสิ่งใด ในขณะที่นิชิดะเองหลงใหลในเปียโน ฉากที่ทั้งสองทะเลาะกันแล้วปรับความเข้าใจกันด้วยดนตรี คือมันดีมากจนรู้สึกอิ่มใจตอนที่ได้ดูฉากนี้ ดนตรีที่ทั้งสองคนเล่นด้วยกันมันเข้าถึงได้ เห็นถึงอารมณ์และความรู้สึกที่เชื่อมทั้งสองเอาไว้

เรื่องราวเล่าถึงมิตรภาพ ความรัก และจูบแรก ได้อย่างสวยงาม ซาบซึ้ง ทำให้นึกถึงบรรยากาศสมัยวัยมัธยม เชื่อว่าหลายๆ คนที่ได้ดูจะเข้าถึงหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ใครคิดเห็นยังไงบ้างหลังดูจบ แวะเข้ามาคุยกัน

Review Series : My ID is Gangnam Beauty นางเอกศัลยกรรมมาแล้วสวย ส่วนพระเอกก็หล่อหัวใจวาย


My ID is Gangnam Beauty (2018)
จำนวน : 16 ตอนจบ

เรื่องย่อ : 
คิมมีแร (นางเอก) ไม่มีความมั่นใจในหน้าตาของตัวเองตัดสินใจไปทำศัลยกรรมมาจนสวย
พอเข้ามหาวิทยาลัย อยากจะเป็นคนใหม่ ดันเจอเพื่อนสมัยมัธยมต้น  คยองซอก (พระเอก)
มาเรียนคณะเดียวกัน เธอเลยกลัวว่าความลับเรื่องหน้าเก่าจะหลุดไป 
ทำให้คิมมีแรไม่ชอบคยองซอก แต่กลายเป็นว่า คยองซอกกับคอยปกป้อง
แถมยังแอบหลงรักคิมมีแรมาตั้งแต่แรก 

คะแนน : 8/10

จะบอกว่าลำเอียงเทคะแนนให้ความหล่อเกินบรรยายของพระเอกเราก็ได้ค่ะ
เพราะว่าหล่อแบบไม่เหลือพื้นที่ให้หายใจหายคอ แถมยังฉลาดขั้นเทพ 
รู้ทันตัวอิจฉาคนสวยอย่างคิมซูอา จนเรารู้สึกสะใจซะอีก

ผิดกับนางเอกเราที่เป็นคนใจดีเกินไป เลยถูกหลอกใช้ได้ง่ายๆ 
แต่นางเอกเราก็ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น พอรู้ตัวว่าโดนหลอกก็สู้กลับนะจ๊ะ
สู้กลับในที่นี้คือไม่ได้สู้รบตบมือปะทะคารมอะไรกันแบบนั้น
แต่เรียกว่า สู้แบบฉลาด คืออ่านเกมออก ฉันรู้ทันเธอนะ ว่าเธอกำลังทำอะไร
และฉันจะไม่เล่นไปตามเกมของเธอ

พระเอกเราก็ไม่ได้เพิ่งมาชอบนางเอกตอนสวยนะ คือชอบมาตั้งแต่ตอนนางหน้าเก่า
จะบอกว่าชอบตอนเห็นนางออกสเต็ปเท้าตลกๆ ที่ป้ายรถเมล์
ก็เลยตกหลุมรักนาง เพราะนางทำให้เจ้าชายไร้อารมณ์ของเรายิ้มออกในวันที่เจอเรื่องร้ายๆ มา

เรื่องนี้ไม่ได้มีฉากหวือหวามากมาย มาหวานกันเอาตอนท้ายๆ
เพราะนางเอกรู้สึกตัวเองไม่คู่ควร เลยไม่ยอมบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปตรงๆ
เพราะกลัวคนรอบข้างจะนินทา พูดง่ายๆ คือนางเอกแคร์ความคิดคนอื่นมากเกินไป
แต่สุดท้ายพอประกาศตัวว่าคบกัน คนรอบข้างก็มีแต่คนยินดีด้วย

เรื่องนี้สร้างมาจากการ์ตูนในเว็บตูนด้วยนะ 
ใครได้ดูแล้วบ้าง คิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ แวะเข้ามาบอกเล่ากันหน่อยสิ






Review : Next Gen อนิเมชั่น ของ Netflix ที่ให้ความรู้สึกเหมือนดู Big Hero 6 (Spoil)



เรื่อง : Next Gen

เรื่องย่อ : 
ในโลกที่มนุษย์กับหุ่นย์ยนต์เป็นเพื่อนกัน เด็กสาวผมม่วง 'เมย์' ที่เกลียดหุ่นยนต์ เพราะไม่มีเพื่อนและครอบครัวที่รักและเข้าใจเธอ แม่ที่เลี้ยงดูก็ดันสนใจแต่หุ่นยนต์ เธอเลยกลายเป็นเด็กมีปัญหา แต่เมื่อเธอได้เจอกับ 'Project77' ความคิดเธอก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป 

คะแนน : 7/10

ความรู้สึกหลังดูจบ :
ตอนแรกก่อนดูคิดว่าฟิลของหนังน่าจะมาคล้ายๆ กับเรื่อง Big Hero 6 แล้วก็จริง พอจะเดาเรื่องได้ไม่ยาก แต่ก็รู้สึกแอบรำคาญตัวละครแสนเอาแต่ใจอย่างเด็กเมย์คนนี้เหลือเกิน ที่เอาแต่สร้างปัญหา เอาง่ายๆ คือใช้อารมณ์พาลไปกับทุกสิ่งจนเกินตัว และด้วยความเอาแต่ใจ หัวรั้นเลยได้ไปเจอกับ 'Project77' หุ่นยนต์ที่ (แอบ) สร้างโดยดอกเตอร์แทนเนอร์ ไรซ์ ที่ก่อตั้งบริษัทไอคิวโรโบติกร่วมกับ จัสติน พิน ที่กลายมาเป็นตัวร้ายเพราะถูกหุ่นยนต์ 'แอรีส' ฆ่าตายและชักใยให้เป็นหุ่นเชิด เพื่อสร้างกองทัพ 'เจนซิกส์'  หุ่นยนต์รุ่นใหม่ ที่จะกลายมาเป็นเหมือนระเบิดเคลื่อนที่แฝงตัวอยู่ร่วมกับผู้คน เพราะคิดว่ามนุษย์คือความไม่สมบูรณ์แบบที่ต้องกำจัดทิ้ง 

Project77 เป็นหุ่นยนต์ที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้และสร้างความทรงจำ โดยความทรงจำที่มีค่าของ Project77 คือ เมย์ โดยในทุกๆ คืน Project77 จะต้องลบความทรงจำของตัวเองเพื่อเคลียร์เมมโมรี่ ไม่อย่างนั้นระบบจะไม่สามารถทำงานได้ และนั่นทำให้ในฉากนึงเขาเลือกที่จะลบระบบควบคุมอาวุธทิ้งแทนความทรงจำที่เกี่ยวกับเมย์ไป แต่กลายเป็นว่า เมย์ไม่เข้าใจในตัวเขาเพราะไม่สามารถช่วยเหลือได้ในยามที่เธอต้องการ แต่สุดท้ายถึงแม้ว่า Project77 จะไม่มีระบบอาวุธ แต่เขาได้บอกให้เมย์เห็นว่าเขาจะไม่ยอมให้เมย์ต่อสู้ด้วยตัวคนเดียว และพร้อมจะร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน นั่นเป็นจุดแรกที่ทำให้เห็นว่า เขาเป็นหุ่นยนต์ที่พร้อมจะอยู่ข้างเมย์ และเข้าใจเมย์ เป็นเพื่อนที่ดีให้เธอได้ สุดท้ายเค้าปกป้องเมย์โดยทิ้งความทรงจำทั้งหมดของตัวเอง และกลับมาโดยไม่เหลือความทรงจำใดๆ อีก แต่ให้เริ่มสร้างใหม่ด้วยกัน

ตัวละครที่สร้างสีสันให้เรื่องอีกตัวคือ หมาของเมย์ ชื่อ 'โมโม่' เพราะหน้าตาตลก กับคาแรกเตอร์ด่าเก่งของมันทำให้เราแอบหลุดหัวเราะมาได้หลายช่วงเลย

โดยรวมเรายังรู้สึกว่าเนื้อเรื่องแอบมืดหม่นไม่สดใส แต่มีเหตุมีผลในตัวของเมย์ ทำให้เนื้อเรื่องแอบดาร์ก ในตอนท้ายก็เศร้าอยู่ไม่น้อย ยิ่งฉากด็อกเตอร์โดนยิงตายแบบไม่ทันได้ตั้งตัว นั่นทำให้เราแอบอึ้งไปเลย เป็นการ์ตูนที่ไม่ได้โลกสวยอย่างที่คิด แต่ก็ให้แง่คิดในหลายเรื่องของความรู้สึกในตอนท้ายกับเรามากๆ โดยเฉพาะคำพูดของ Project77 ที่พูดกับเมย์ก่อนจะเสียความทรงจำทั้งหมดไปว่า

"ความทรงจำของเราทำให้เราเป็นเรา
อย่าให้ความทรงจำไม่ดี ขัดขวางการสร้างความทรงจำดีๆ"

ใครที่ดูแล้วคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้บ้าง


ชอบเพลงประกอบมากๆ ก็เลยอยากแปะเอาไว้ให้ได้ฟังกัน ^^


แนะนำ 31 หนังแนว 'อัจฉริยะ' ที่เคยดู By ยูนิคอร์น


แนะนำ 31 หนังแนว 'อัจฉริยะ' ที่เคยดู By ยูนิคอร์น
ถ้านึกออกมากกว่านี้ก็จะมาอัพเดตเพิ่มเติมเรื่อยๆ 
แต่เท่าที่ขุดความจำ คือนึกออกประมาณเท่านี้จริงๆ

1.Sherlock Holmes 1 (2009)
2.Sherlock Holmes 2 A Game Of Shadows (2011)




































3.Good Will Hunting (1997)
4.A Beautiful Mine (2001)
5.Gifted (2017)
6.The Imitation Game (2014)
7.Limitless (2011)
8.Little Man Tate (1991)
9.August Rush (2007)
10.The Theory of Everything (2014)












11.21 (2008) 



















12.Hidden Figures (2016)


















13.Iron Man (2008) 


















14.Lucy (2014) 



















15.Steve Jobs (2015) 


















16.The Man Who Knew Infinity (2015)
















17.The Social Network (2010) 

















18.Tomorrowland (2015) 



















19.X+Y (2014)
20.Catch Me If You Can (2002) 
















21.Forrest Gump (1994) 













22.ocean 8 (2018)
















23.Ready Player One (2018)















24.Ender's game (2013)

















25.October Sky (1999)



















26.Interstellar (2014) 
















27. Inception (2010)


















28.Death Note (2006)


















29.Bad Genius (2017)



















30.Kingsman 1 The Secret Service (2014)
31.Kingsman 2 The Golden Circle (2017)